+662 869 2882
+662 869 2880
info@wholesaleseurope.com
Facebook-f
Line
โปรแกรมทัวร์
จัดทริปส่วนตัว
จองโรงแรม
ตั๋วเครื่องบิน
วีซ่า
Menu
โปรแกรมทัวร์
จัดทริปส่วนตัว
จองโรงแรม
ตั๋วเครื่องบิน
วีซ่า
รายการท่องเที่ยวเยอรมัน สวิส ฝรั่งเศส
ประเทศเยอรมัน – สวิสเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส 9 วัน 7 คืน
กำหนดการเดินทาง
วันแรกของการเดินทาง
กรุงเทพฯ
2100
พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาออก ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่ ไทแทน แทรเวิล คอยอำนวยความสะดวกในการเช็คอินน์และโหลดกระเป๋าสัมภาระ
2345
ออกเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 920 เดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟริ์ต (ชนิดเครื่อง แอร์บัส 380 ลำใหญ่ที่สุดในโลก 2 ชั้น)
วันที่สองของการเดินทาง
แฟรงค์เฟริ์ต – ล่องแม่น้ำไรน์ – ไฮเดลเบิร์ก
0600
(เวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) เดินทางถึงสนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟริ์ต ประเทศเยอรมัน
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเข้าสู่ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
เดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟริ์ตเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเฮสส์และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ (Main river) และเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตและธนาคารกลางยุโรป
ฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์เป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยในเขตเมืองและปริมณฑลมีประชากรประมาณ 5 ล้านคน แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ
ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำเที่ยว ชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์
จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองบ๊อบพาร์ด
1200
รับประทานอาหารกลางวน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (1)
บ่าย
นำท่านลงเรือ ล่องแม่น้ำไรน์ ชมความงามของไร่องุ่น และปราสาทเก่าแก่อายุหลายร้อยปี หลายแห่งที่ก่อสร้างในยุคที่อัสวินรุ่งเรืองในเยอรมัน ซึ่งตั้งอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำ และผ่าน เซ็นต์กอล์ เมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงเพราะบทกวีของHEINRICH HEINE ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีเยี่ยม ปราสาท และโบสถ์มากมายที่ยังคงให้ภาพประทับใจเหมือนที่เคยเป็นมาใน คริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกหลั่งไหลกันมาชมจำนวนมหาศาลนอกจากนี้ลุ่มแม่น้ำไรน์ยังลือลั่น ด้านเหล้าองุ่นคุณภาพสูงของเยอรมันอีกด้วย ล่องเรือมาถึงท่าเรือเซนต์กอล
1530
เรือเทียบท่าเมืองเซนต์กอล จากนั้น เดินทางด้วยรถเข้าเมืองเมืองไฮเดลเบิร์ก อดีตสถานที่พระราชสมภพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมืองอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเยอรมัน และได้มีการก่อตั้งสมาคมของเหล่า นักกวียุคโรมานซ์ขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่19อันได้แก่RENTANO,EICHENDORFF และ VON ARNIM
ในปัจจุบันนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยนักศึกษา และนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเมืองที่ยังคงลักษณะบรรยากาศเช่นเดียวกับในยุคโรแมนติกของยุโรป ตัวเมืองตั้งอยู่ชายป่า ODENWALT ริมแม่น้ำเนคคาร์ จึงนับได้ว่ามีองค์ประกอบของเมืองที่งดงาม มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน (3) ที่พัก Mariott Heldelberg Hotel หรือระดับเดียวกัน
วันที่สามของการเดินทาง
ไฮเดลเบิร์ก – ทิติเซ่
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (4)
หลังอาหารเช้า นำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้า เพื่อขึ้นชมปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle) นำท่านเข้าชมปราสาทเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวมากที่สุดของเมือง โดยปราสาทนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1300 ในสไตล์โกธิค-เรอเนสซองซ์ ปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาและโดยรอบมีป่าละเมาะแสนสวยสามารถเดินเล่นได้ บริเวณปาร์กของปราสาทจะมีต้นไม้ใหญ่อย่างต้นเบิช ต้นเมเปิ้ล ต้นโอ้ค มีอยู่มากมาย ในอดีตปราสาทแห่งนี้ใช้เป็นป้อมปราการ และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทเมื่อปีค.ศ 1544 แม้ปราสาทแห่งนี้จะเคยถูกเผาและทำลายไปบ้างในสมัยสงคราม แต่ก็ยังคงสภาพความสวยงามอยู่เหนือแม่น้ำเนคการ์ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ส่วนปราสาทแห่งนี้ถูกนำมาจากหลายที่ด้วยกัน สำหรับส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาทแห่งนี้ คือเสาแกรนิตแบบโรมัน ซึ่ง ELECTOR PHILIP นำมาจากพระราชวังหลวงของพระเจ้าชาร์ลเลอมาร์น ใน INGELHIM ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือข้างหลังประตูของหอคอย ปราสาทแห่ง นี้ถูกสร้างต่อเติมเรื่อยมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 จนกระทั่งถึงสงคราม 30 ปี ดังนั้นจึงทำให้เราพบรูปแบบของสถาปัตยกรรมหลากหลาย ณ ปราสาทแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นโกธิค เรอเนอซองส์ หรือบาร็อค และชมถังไวน์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกอายุ 100 กว่าปี อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจกับความสวยงามของปราสาท พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำ ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์พระวิญญาณบริสุทธิ์ (Church of the Holy Spirit) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไฮเดลเบิร์ก โดยโบสถ์ตั้งอยู่บริเวณใจกลางตลาดในเขตเมืองเก่า ตัวโบสถ์ถูกล้อมรอบไปด้วยลานน้ำพุและคาเฟ่ โดยโบสถ์ถูกสร้างขึ้นจากฐานเดิมของโบสถ์เก่า และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของเมืองไฮเดลเบิร์ก
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย (5)
บ่าย
ออกเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ (ระยะทาง 154 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองตากอากาศขนาดเล็ก โอบล้อมด้วยขุนเขา ตั้งอยู่ในเขตของป่าดำ (Black Forest) ที่ปกคลุมไปด้วยป่าสนยืนต้นนับหมื่นไร่ของประเทศเยอรมนี จุดเด่นของที่นี่ คือ ทะเลสาบทิทิเซ่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่ติดอันดับความสวยงามในยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวจะรู้สึกได้ถึงความเงียบสงบ พร้อมกับได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกซื้อ นาฬิกาคุกคู สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ ที่มีแบบแปลกๆ ใหม่ๆ มากมาย อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าประทับใจและชื่นชมธรรมชาติตามอัธยาศัย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นเมนู ขาหมูเยอรมัน (6)
ที่พัก HOFGUT HOTEL TITISEE หรือระดับเดียวกัน
วันที่สี่ของการเดินทาง
ทิติเซ่ – ซาฟเฮาเซ่น(สวิตเซอร์แลนด์)
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (7)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองชาฟเฮาเซ่น เพื่อชม น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป อยู่ทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเมืองซอฟฮาวเซ่น เป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินสวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตก เชิญชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ ที่นี่ มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถชมน้ำตกและสัมผัสละอองน้ำตกที่กระเซ็นได้อย่างใกล้ชิด
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (8)
บ่าย
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทาง ธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้
นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2010
จากนั้นนำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น ท่านยังได้ผ่านชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191-1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อินเตอร์ลาเก้น เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมือง หนึ่งในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (9)
ที่พัก CITY OBERLAND HOTEL หรือระดับเดียวกัน
วันที่ห้าของการเดินทาง
ยอดเขาจุงเฟรา - อินเทอร์ลาเก้น
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่ ห้องอาหารโรงแรม (10)
หลังอาหารนำท่านนั่งรถไฟสู่ ยอดเขาจุงเฟรา ยอดเขาที่ได้ชื่อว่าเป็น Top of Europe มีความสูง 3,454 เมตร นับเป็นเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดของยุโรป ได้สัมผัสความงามมหัศจรรย์ดุจแดนสวรรค์ ขาวโพลนด้วยเกล็ดหิมะยามสะท้อนแสงอาทิตย์เปล่งประกายระยิบระยับตา ดั่งดวงดาวบนพื้นพิภพ จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี2544 ข้างบนภูเขา มีร้านค้าขายของที่ระลึกและกิจกรรมที่ควรทำคือการส่งไปรษณีย์จากที่นี่เพราะ เขาจะมีตรายางให้ปั๊มว่า "Top of Europe" เป็นความทรงจำที่ดีจริงๆ และสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นบนสถานีตรวจวัดสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และถ้ำน้ำแข็งให้ดูด้วย
นำท่านชม ธารน้ำแข็งอเลิท์ซ กลาเซียร์ มีความงดงามเกินบรรยาย ซึ่งมีความยาวของทุ่งน้ำแข็งถึง 22 ก.ม.ยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป สามารถมองเห็นได้จากบริเวณจุดชมวิวสฟิงซ์ ในวันที่อากาศปลอดโปร่ง และเห็นธารน้ำแข็งทอดยาวเป็นเวิ้งไกล สุดลูกหูลูกตา ไม่ผิดไกลนักจากคำว่าสวรรค์บนดิน ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เชิญสู่ลานหิมะ สนุกสนานกับการเล่นหิมะอันขาวสะอาดตา จากนั้นนำท่านชม วังน้ำแข็ง (ice palace) ที่ขุดภูเขาน้ำแข็งลึกลงไปใต้ธารน้ำแข็งราว 30 เมตร เชื่อมเส้นทางระหว่างปราสาทน้ำแข็งและลานหิมะ เป็นเสมือนประตูสู่อาณาจักรน้ำแข็งอันน่าตื่นตาตื่นใจ ตลอดขณะเดิน ควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมในการเดินบนพื้นน้ำแข็ง ภายในเป็นโถงขนาดกว้างใหญ่ ประดับด้วยน้ำแข็งแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ อย่าง อินทรี แมวน้ำ เพนกวิน หมีขั้วโลกเหนือ เป็นต้น และมีไฟประดับเพื่อสร้างบรรยากาศ นอกจากนี้ยังมีบาร์น้ำแข็ง ที่บริการเครื่องดื่ม สำหรับงานสังสรรค์อย่างเป็นส่วนตัวด้วย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (11) บนยอดเขาจุงเฟรา
บ่าย
หลังอาหารให้ท่านได้มีเวลาเต็มที่เพื่อเก็บภาพที่ระลึกบนลานกว้างที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนจากนั้นนำท่านเดินทางกลับลงจากยอดเขา แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไซเด็ด ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เคยเสด็จเมื่อ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2440 (ค.ศ. 1897) แล้วเดินทางสู่เมืองเลาเท่นบรุนเน่น ผ่านเมืองเวนเก้น เมืองแสนสวย จนถึงเมืองเลาเทอร์บรุนเนน (LAUTERBRUNNEN)
จากนั้นเดินทางโดยรถโค้ชกลับสู่เมืองอินเทอร์ลาเก้น เดินเล่นชมเมือง ช้อปปิ้งสินค้าสวิส และถ่ายรูปนาฬิกาดอกไม้หน้าคาสิโน (มี.ค. – ต.ค. ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดถึง 4 ทุ่ม) จากนั้นท่านสามารถอิสระเลือกซื้อสินค้าสวิส อาทิ นาฬิกายี่ห้อดัง, มีดพับ, ช็อคโกแลต ฯลฯ และเดินเล่นในเมืองอินเทอร์ลาเก้น
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (12)
อาหารฟองดูร์ พร้อมชมการแสดงพื้นเมืองสวิส ที่พัก CITY OBERLAND HOTEL หรือระดับเดียวกัน
วันที่หกของการเดินทาง
อินเทอร์ลาเก้น – ปารีส - รถไฟด่วน TGV – ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่ ห้องอาหารโรงแรม (13)
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่พรมแดงฝรั่งเศสที่เมืองบาเซิล เป็นเมืองอุตสาหกรรมของสวิสเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมเคมีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ด้วยว่าเมืองนี้อยู่ริมแม่น้ำไรน์ สะดวกในการขนถ่ายสินค้าทางเรือ ผ่านพรมแดน เข้าสู่ฝรั่งเศส เดินทางต่อจนถึง เมืองดีจอง ของฝรั่งเศส
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (14)
บ่าย
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ กรุงปารีส โดยรถไฟด่วน TGV จะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที กรุงปารีส เป็นมหานครที่ผู้คนใฝ่ฝันอยากมาเยือน จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี มีสินค้าแบร์นเนมชื่อดัง เครื่องสำอางชั้นนำทั้งใน และต่างประเทศ
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (15) เมนูหอยทาก พร้อมไวน์
ที่พัก PARIS MARRIOTT OPERA AMBASSADOR HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน
วันที่เจ็ดของการเดินทาง
ปารีส – พระราชวังแวร์ซายส์
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่ ห้องอาหารโรงแรม (16)
หลังอาหาร นำท่านชม จัตุรัสคองคอร์ต สถานที่ตั้งเครื่องกิโยตินประหารนัก โทษการเมืองสมัยปฏิวัติใหญ่ฝลั่งเศษ ค.ศ 1789 โรงละครโอเปร่า ประตูชัยนโปเลียน ถนนแฟชั่นชองป์เซลิเซ่ อาคารรัฐสถา สถาบันการทหาร หรืออดีตโรงเรียนนายร้อยที่พระเจ้านโปเลียนเคยทรงศึกษา
จากนั้นนำท่านชม โบสถ์นอร์เทอร์ดาม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงปารีส เพราะเป็นสถานที่ที่อยู่คู่กับเมืองปารีสมาอย่างช้านาน และมีชื่อเสียงด้านความใหญ่โตหรูหรา มีสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก โดยการเที่ยวชมนั้นนักท่องเที่ยวจะได้เห็นความอลังการของโบสถ์นอทเทอร์ดัม อีกทั้งทางขึ้นก็ยังต้องขึ้นบันได 387 ขั้นเพื่อไปถึงยอดของโบสถ์อีกด้วย ส่วนการเข้าชมโบสถ์นอทเทอร์ดัมนั้น ขอแนะนำให้คุณไปเยี่ยมชมช่วงเช้า เพราะดวงอาทิตย์จะส่องกระทบกับซุ้มประตูทางทิศตะวันตกของโบสถ์ มองดูแล้วเหมือนเป็นประกายเพชรที่ระยิบระยับจับตา และเพิ่มความหรูหราให้กับโบสถ์ได้เยอะเลยทีเดียว
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (17)
บ่าย
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองแวร์ซายส์ เพื่อเข้าชมความงดงามของ พระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace) อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของ พระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก (Hall of Mirror) ที่มีความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและเต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่ จากนั้น นำท่านขึ้น ชมวิวบนหอไอเฟิล ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส เป็นหอคอยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก และสวยมากในเดือนธันวาคมที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลคริสมาสต์ ท่านจะได้เห็นสีสันและความโรแมนติกของกรุงปารีสยามค่ำคืน
1800
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย (18) เมนู กุ้งล๊อบเตอร์
ที่พัก PARIS MARRIOTT OPERA AMBASSADOR HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือระดับเดียวกัน
วันที่แปดของการเดินทาง
ปารีส – กรุงเทพฯ
เช้า
รับประทานอาหารเช้าที่ ห้องอาหารโรงแรม (19)
หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินชาร์ล เดอ โกล
1230
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 931 Airbus 380 บินตรงสู่กรุงเทพฯ
วันที่เก้าของการเดินทาง
กรุงเทพฯ
0600
เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
โปรแกรมทัวร์
ท่องเที่ยว 3ประเทศ อิตาลี-สวิส-เนเธอแลนด์
รายละเอียด »
ท่องเที่ยว 3ประเทศ เยอรมัน-สวิส-ฝรั่งเศส
รายละเอียด »
ท่องเที่ยวยุโรปตะวันออกในฝัน
รายละเอียด »
Page Views:
4,198